วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

หน้าหลัก

กฎหมายในงานก่อสร้าง

อ่านต่อ คลิก กฏหมายในงานก่อสร้าง


ความปลอดภัยในงานก่อสร้าง

เรื่องความปลอดภัยทั่วไป อ่านต่อ คลิก ความปลอดภัยทั่วไป

เรื่องความปลอดภัยในการทำงาน อ่านต่อ คลิก ความปลอดภัยในการทำงาน

เรื่องความปลอดภัยของเขตก่อสร้าง อ่านต่อ คลิก ความปลอดภัยเขตก่อสร้าง

เรื่องความปลอดภัยการใช้นั่งร้าน อ่านต่อ คลิก ความปลอดภัยการใช้นั่งร้าน

เรื่องความปลอดภัยการทำงานที่สูง อ่านต่อ คลิก ความปลอดภัยการทำงานในที่สูง

เรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับงานไฟฟ้า อ่านต่อ คลิก ความปลอดภัยเกี่ยวกับงานไฟฟ้า

 






กฎหมายความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง 6

เรื่อง “ความปลอดภัยเกี่ยวกับไฟฟ้า” 8 มีนาคม 2522
สาระสำคัญ
ต้องจัดให้มีแผนผังวงจรไฟฟ้าทั้งหมดภายในสถานประกอบการหากมีการเพิ่มเติม
/เปลี่ยนแปลง ต้องแก้ไขให้ถูกต้อง
ต้องตรวจสอบสภาพสายไฟและอุปกรณ์ หากชำรุด หรือกระไฟฟ้ารั่ว ต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที
ต้องจัดให้มีป้ายเตือนอันตราย ติดตั้งบริเวณที่อาจมีอันตรายจากไฟฟ้า
สายไฟฟ้า การเดินสายไฟ ระบบป้องกันไฟฟ้าเกิน ขนาดสายดิน ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย
ต้องจัดทำข้อบังคับเกี่ยวกับปฏิบัติงาน แจกจ่ายเป็นคู่มือการปฏิบัติงาน
ต้องจัดให้มีการอบรมผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับไฟฟ้า
เรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับเครื่องจักร” 23 กรกฎาคม 2519
สาระสำคัญ
ผู้ปฏิบัติงานกับเครื่องจักร ต้องสวมใส่เครื่องนุ่งห่มที่รัดกุม เรียบร้อย
กรณีที่ผู้ปฏิบัติงานผมยาวเกินสมควร ต้องรวบหรือทำอย่างอื่นที่ปลอดภัย
เครื่องจักรที่ใช้พลังงานไฟฟ้าต้องต่อสายดิน
การเดินสายไฟเข้าเครื่องจักรต้องฝังดิน หรือเดินลงมาจากที่สูง
เครื่องจักรที่มีการถ่ายทอดพลังงาน ต้องมีครอบส่วนที่หมุนหรือส่วนส่งถ่ายกำลัง
ใบเลื่อยวงเดือนต้องมีที่ครอบใบเลื่อย
เครื่องลับ ฝน หรือแต่งผิวโลหะ ต้องมีเครื่องปิดกั้นประกายไฟหรือเศษวัตถุ
ก่อนติดตั้ง ซ่อม ต้องปิดประกาศและแขวนป้ายห้ามเปิดสวิตช์
ทุกวันก่อนนำเครื่องมือกลออกใช้ ต้องตรวจสภาพ
ทางเดิน เข้า-ออก เครื่องจักร ต้องกว้าง 80 ซ.ม.
ต้องจัดทำรั้ว คอก หรือเส้นแสดงเขตอันตราย
เรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับภาวะแวดล้อม” 12 พฤศจิกายน 2519
มีการกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับความร้อน / แสง / เสียง
ความร้อน
อุณหภูมิบริเวณการทำงานต้องไม่เกิน 45 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิของร่างกายต้องไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส
การแก้ไข
ให้แก้ไขที่แหล่งกำเนิดความร้อน ทางผ่าน และจัดอุปกรณ์ตามลำดับ
แสง
ให้มีแสงสว่างไม่น้อยกว่าที่กำหนด ตามลักษณะงาน
งานที่ไม่ต้องการความละเอียด 50 ลักซ์
งานที่ต้องการความละเอียดเล็กน้อย 100 ลักซ์
งานที่ต้องการความละเอียดปานกลาง 200 ลักซ์
งานที่ต้องการความละเอียดสูง 300 ลักซ์
งานที่ต้องการความละเอียดมากเป็นพิเศษ 1000 ลักซ์
ถนน ทางเดินนอกอาคาร 20 ลักซ์
ทางเดินภายในอาคาร 50 ลักซ์
เสียง
ทำงานไม่เกิน 7 ชั่วโมง ต้องไม่เกิน 91 เดซิเบลเอ
ทำงาน 7-8 ชั่วโมง ต้องไม่เกิน 90 เดซิเบลเอ
ทำงานเกิน 8 ชั่วโมง ต้องไม่เกิน 80 เดซิเบลเอ
ระดับเสียงสูงสุดต้องไม่เกิน 140 เดซิเบลเอ
อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล (Personnel Protection Equipment : PPE)
ป้องกันศีรษะ
ป้องกันตา
ป้องกันเสียง
ป้องกันระบบหายใจ
ป้องกันมือ
ป้องกันร่างกายส่วนอื่นๆ

บทลงโทษ
ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
ปรับ ไม่เกิน 200,000 บาท
จำคุก ไม่เกิน 1 ปี
ทั้งปรับ ทั้งจำ
ไม่จัดทำ / รายงานเอกสาร
ปรับ ไม่เกิน 100,000 บาท
จำคุก ไม่เกิน 6 เดือน
ทั้งปรับ ทั้งจำ

ผู้ตรวจสอบหรือรับรองอันเป็นเท็จ
ปรับ ไม่เกิน 200,000 บาท
จำคุก ไม่เกิน 1 ปี
ทั้งปรับ ทั้งจำ
ไม่ตรวจสอบสุขภาพลูกจ้าง และส่งผลตามหลักเกณฑ์ วิธีการที่กำหนด
ปรับ ไม่เกิน 200,000 บาท
จำคุก ไม่เกิน 1 ปี
ทั้งปรับ ทั้งจำ
นายจ้างไม่จ่ายค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้างเมื่อได้รับคำสั่งให้หยุดเครื่องจักร
ปรับ ไม่เกิน 200,000 บาท

กฎหมายความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง 5

เรื่องความปลอดภัยในการทำงานในสถานที่ที่มี อันตรายจากการตกจากที่สูง วัสดุกระเด็น ตก หล่น และพังทลาย” (18 ตุลาคม 2534)

สาระสำคัญ
จัดนั่งร้านให้ลูกจ้างที่ปฏิบัติงานสูงจากพื้นเกิน 2 ม.
กรณีทำงานโดดเดี่ยวสูงเกิน 4 ม. จัดทำราวกันตก ตาข่ายหรือเข็มขัดนิรภัยให้ลูกจ้างสวมใส่
ช่องเปิดหรือปล่อง จัดทำฝาปิดหรือรั้วกั้น
จัดทำไหล่ดิน หรือผนังกั้นกันดินพังทลาย
ห้ามทำงานขณะมีพายุ ฝนฟ้าคะนอง
บันไดไต่
ระยะห่างฐานถึงผนังกับความยาวต้องมีอัตราส่วน 1 ต่อ 4
กว้างไม่น้อยกว่า 30 ซ.ม.
มีความแข็งแรง และยึดมั่นคง
หากสูงเกิน 10 ม. ต้องมีโกร่งหลัง

การป้องกันการกระเด็น
ลำเลียงวัสดุจากที่สูง ต้องมีราง ปล่อง หรือเครื่องมือลำเลียงที่ปลอดภัย
การสาดเท ต้องประกาศเขต และมีผู้ควบคุมการเข้าออกตลอดการสาดเท
จัดให้มีแผ่นกั้น ผ้าใบ ตาข่าย

เรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถาน ประกอบการเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน สำหรับลูกจ้าง” (21 พฤศจิกายน 2534)
สาระสำคัญ
จัดให้มีแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย
จัดให้มีอุปกรณ์ดับเพลิง
จัดให้มีทางหนีไฟ
จัดให้มีการอบรมการดับเพลิงขั้นต้น และการฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมหนีไฟ
จัดให้มีการตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิง

มีแผนป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถานประกอบการ
ก่อนเพลิงไหม้
แผนการอบรม
แผนการรณรงค์
แผนการป้องกัน
ขณะเพลิงไหม้
แผนดับเพลิง
แผนอพยพ
หลังเพลิงไหม้
แผนการบรรเทาทุกข์
แผนการปฏิรูปฟื้นฟู

อุปกรณ์ดับเพลิง
ระบบดับเพลิงและอุปกรณ์ประกอบ
เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ

ระบบดับเพลิงและอุปกรณ์ประกอบ
ข้อต่อสายส่งน้ำ/สายหัวฉีด ต้องเป็นชนิดเดียวกับหน่วยงานดับเพลิงท้องถิ่น
สายส่งน้ำมีความยาวเพียงพอ
มีระบบน้ำสำรอง (กรณีไม่มีท่อน้ำดับเพลิงของราชการ)
ระบบส่งน้ำ ที่เก็บน้ำ ปั๊มน้ำและการติดตั้ง(มีวิศวกรรับรอง)

เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ
จัดตามประเภทของเพลิงและมีปริมาณเพียงพอ
ติดตั้งสูงจากพื้น 1.00-1.40 ม.
มีรายละเอียดภาษาไทย ติดไว้ ณ จุดติดตั้ง
ตรวจสอบทุกๆ 6 เดือน

หน้าที่นายจ้าง
จัดให้ลูกจ้างอบรม “การดับเพลิงขั้นต้น” 40%
จัดให้มีการฝึกซ้อมดับเพลิงและหนีไฟ” ปีละครั้ง
จัดให้มีผู้ทำหน้าที่ดับเพลิง ประจำ ตลอดเวลา
ดูแลให้เส้นทางหนีไฟ ปราศจากสิ่งกีดขวาง
จัด PPE ให้ลูกจ้างที่ทำหน้าที่ดับเพลิง

กฎหมายความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง 4

เรื่องความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้างว่าด้วยนั่งร้าน” (30 มิถุนายน 2525)
ทำงานสูงเกิน 2 ม. ต้องจัดให้มีนั่งร้าน
นั่งร้านต้องออกแบบโดยวิศวกร
ให้จัดทำรั้วหรือคอกกั้น และปิดประกาศแสดงเขตก่อสร้าง
ให้กำหนดเขตอันตราย และห้ามลูกจ้างที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตนั้น
ให้แจ้ง และปิดประกาศ และห้ามลูกจ้างพักอาศัยในอาคารที่กำลังก่อสร้างเขตอันตราย
จัดทำรั้ว หรือคอกกั้น หรือแผงกั้นกันของตก
ปิดประกาศ “เขตอันตราย”
เวลากลางคืนติดสัญญาณไฟสีแดง
การออกแบบนั่งร้าน
ไม้มีหน่วยแรงดัดประลัยไม่น้อยกว่า 500 ก.ก./ ตร.ซม. ส่วนปลอดภัยไม่น้อยกว่า 4
เหล็ก มีจุดครากไม่น้อยกว่า 2400 ก.ก. / ตร.ซม.ส่วนปลอดภัยไม่น้อยกว่า 2
นั่งร้าน รับ น.น. ไม่น้อยกว่า 2 เท่าของ น.น. ใช้งาน
ฐานรองรับนั่งร้าน น.น. ไม่น้อยกว่า 2 เท่าของ น.น. ใช้งาน
มีราวกันตก 90-110 ซ.ม.
พื้นปูติดต่อกันและ กว้าง ไม่น้อยกว่า 35 ซ.ม.
มีบันไดลาดเอียงไม่เกิน 45 องศา
เผื่อ น.น. ผ้าใบ ตาข่าย และอื่นๆ
ยึดโยง ค้ำยัน อย่างมั่นคง
การสร้าง
ห้ามยึดโยงกับหอลิฟท์
ปิดคลุมด้วยผ้าใบ หรือตาข่าย โดยรอบนั่งร้าน
เหนือช่องทางเดิน ต้องปิดคลุมด้วยผ้าใบ หรือตาข่าย
ต้องติดตั้งด้วยความมั่นคง แข็งแรง
การใช้
ตรวจสอบ หากลื่น ชำรุด ห้ามลูกจ้างทำงานบนนั่งร้าน
กรณีใกล้สายไฟฟ้าต้องหุ้มฉนวน หรือมีระยะห่างอย่างน้อย 2.40 ม.
กรณีทำงานหลายชั้นพร้อมกัน ต้องมีสิ่งป้องกันอันตรายต่อผู้ทำงานชั้นล่าง
ห้ามทำงานขณะมีพายุ
เรื่องความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับการตอกเสาเข็ม” (21 ธันวาคม 2531)
ข้อกำหนดทั่วไปในการตอกเสาเข็ม
จัดทำเขตก่อสร้าง
ปฏิบัติตามรายละเอียดคุณลักษณะของบริษัทผู้ผลิต
ก่อนการตอก ต้องตรวจอุปกรณ์โดยผู้ควบคุมงาน
จัดให้มีคู่มือการตอก
มีป้ายบอกพิกัด น.น.
กรณีทำการตอกใกล้สายไฟฟ้า ต้องมีระยะห่างที่ปลอดภัย
กรณีทำงานกลางคืนต้องมีแสงสว่างเพียงพอ

ความปลอดภัยในการตอก
มีผู้ควบคุมงาน ภายใต้การดูแลของวิศวกร
คนบังคับเครื่องตอก ต้องผ่านการอบรมหรือเป็น ผู้ชำนาญการ
มีผู้ให้สัญญาณ
พื้นรองรับเครื่องตอกต้องมั่นคง
ห้ามทำงานขณะมีพายุ
เปลี่ยนครอบหัวเสาเข็มเมื่อลูกตุ้มหยุดทำงาน หรือลูกจ้าง อยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย
เสาเข็มที่มีรูกลวงเกิน 15 ซ.ม. ต้องกลบหรือปิด
เรื่องความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่น” (17 เมษายน 2530)สาระสำคัญ
ต้องปฏิบัติตามรายละเอียดคุณลักษณะของบริษัทผู้ผลิต
มีคู่มือปฏิบัติงานเป็นภาษาไทย
ฐานปั้นจั่นต้องมีความมั่นคงแข็งแรง
ติดป้ายบอกพิกัด น.น.ยก
ทำเครื่องหมายแสดงเขตอันตราย
ทางเดินบนปั้นจั่นต้องไม่ลื่นและปลอดภัย
ติดตั้งเครื่องดับเพลิงในห้องบังคับ
ปั้นจั่นสูงเกิน 3 เมตร บันไดต้องมีราวจับและโกร่งหลัง
กรณีทำงานตอนกลางคืนต้องมีแสงสว่างเพียงพอ
มีผู้ให้สัญญาณประกอบการยก
กรณีใช้งานใกล้สายไฟฟ้า ต้องมีระยะห่างที่ปลอดภัย
มีการตรวจสอบปั้นจั่นทุกๆ 3 เดือน
ห้ามใช้เชือกลวดเหล็กกล้า ที่ชำรุด
ห้ามดัดแปลงหรือแก้ไขที่ทำให้ความปลอดภัยน้อยลง

กรณีติดตั้งบนแพเรือ หรือพาหนะลอยน้ำ
ยึดให้มั่นคงโดยมีวิศวกรเป็นผู้รับรอง
เปลี่ยนป้ายพิกัดน้ำหนัก ให้ปลอดภัยและไม่เกินระวางบรรทุกเต็มที่ของแพ เรือ หรือพาหนะนั้น

กฎหมายความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง 3

เรื่อง ความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้างว่าด้วย เขตก่อสร้าง (10 กันยายน 2528)
ให้จัดทำรั้วหรือคอกกั้น และปิดประกาศแสดงเขตก่อสร้าง
ให้กำหนดเขตอันตราย และห้ามลูกจ้างที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตนั้น
ให้แจ้ง และปิดประกาศ และห้ามลูกจ้างพักอาศัยในอาคารที่กำลังก่อสร้างเขตอันตราย
จัดทำรั้ว หรือคอกกั้น หรือแผงกั้นกันของตก
ปิดประกาศ “เขตอันตราย”
เวลากลางคืนติดสัญญาณไฟสีแดง

เรื่อง ความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้างว่าด้วย ลิฟท์ขนส่งวัสดุชั่วคราว (29 มกราคม 2524)

ลิฟท์สูงเกิน 9 ม. ต้องออกแบบโดยวิศวกร
กรณีติดตั้งภายในหอ ต้องจัดทำรั้วหรือตาข่ายสูง 2 ม. โดยรอบเว้นทางเข้าออก
กรณีติดตั้งภายในปล่อง ต้องจัดทำรั้วสูง 2 ม. โดยรอบเว้นทางเข้าออก
ทางเดิมเชื่อมลิฟท์กับสิ่งก่อสร้างต้องมีราวกันตก ขอบกันของตก และไม้ขวาง
ก่อนการใช้งาน ต้องตรวจจับรองโดยวิศวกรและเก็บเอกสารดังกล่าวไว้
ห้ามใช้ลิฟท์สายพาน

การออกแบบลิฟท์ มีรายละเอียดดังนี้
หอลิฟท์ รับ น.น. 2 เท่าของ น.น. ใช้งาน
คานติดตั้งรอกและฐานรองรับคาน มีส่วนปลอดภัยไม่น้อยกว่า 5
หอที่สร้างด้วยไม้ แรงดัดประลัยไม่น้อยกว่า 800 กก. / ตร.ซม. และส่วนปลอดภัยไม่น้อยกว่า 8
ฐาน รับ น.น. ไม่น้อยกว่า 2 เท่าของ น.น.ใช้งาน
หอที่สร้างด้วยเหล็ก จุดครากไม่น้อยกว่า 2400 ก.ก./ ตร. ซม. และส่วนปลอดภัยไม่น้อยกว่า 2
ตัวลิฟท์ รับ น.น. ไม่น้อยกว่า 5 เท่าของ น.น. ใช้งาน
มีการยึดโยง ค้ำยัน หรือตรึงให้มั่นคง
การใช้ลิฟท์
คนบังคับลิฟท์ต้องผ่านการอบรม
มีข้อบังคับการใช้ลิฟท์
ตรวจสอบก่อนการใช้งานทุกวัน
ติดป้ายบอกพิกัด
ดูแลมิให้วัสดุตก
หากวัสดุมีล้อ ต้องป้องกันมิให้เคลื่อนที่

กฎหมายความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง 2

กฎหมายความปลอดภัยในการทำงานที่สำคัญ ดังนี้
1. เครื่องจักร
2. ภาวะแวดล้อม
3. สารเคมี
4. ไฟฟ้า
5. ประดาน้ำ
6. ลิฟท์ขนส่งวัสดุชั่วคราว
7. นั่งร้าน
8. เขตก่อสร้าง
9. ความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง
10. ปั้นจั่น
11. การตอกเสาเข็ม
12. สถานที่อับอากาศ
13. ตกจากที่สูง วัสดุกระเด็น ตกหล่นฯ
14. การป้องกันและระงับอัคคีภัยฯ
15. หม้อน้ำ
16. สารเคมีอันตราย
17. คณะกรรมการความปลอดภัยฯ

ประกาศกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
เรื่องคณะกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน” (27 มิถุนายน 2538)


ประเภทกิจการ

1. เหมืองแร่ เหมืองหิน ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี
2. การผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อมบำรุง เก็บรักษาฯ
3. การก่อสร้าง
4. ขนส่ง
5. โรงแรม
6. ห้างสรรพสินค้า
7. สถานีบริการ/ จำหน่ายน้ำมัน/ แก๊ส
8. สถานพยาบาล
9. สถาบันการเงิน
10. อื่นๆ

สาระสำคัญ
สถานประกอบการที่มีลูกจ้าง ตั้งแต่ 50 คน ต้องจัดให้มีคณะกรรมการความปลอดภัยฯ (คปภ.)
สถานประกอบการที่มีลูกจ้าง ไม่ถึง 50 คน ต้องจัดให้มีผู้ดูแลด้านความปลอดภัยฯหน้าที่นายจ้าง
ต้องจัดให้มี คปภ. ภายใน 30 วัน
ปิดประกาศรายชื่อ/ หน้าที่ คปภ. โดยเปิดเผยไม่น้อยกว่า 15 วัน
แจ้งการแต่งตั้งต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานภายใน 15 วัน

หน้าที่ คปภ.
1. ประชุมอย่างน้อยเดือนละครั้ง
2. สำรวจด้านความปลอดภัยเดือนละครั้ง
3. รายงาน / เสนอแนะมาตรการปรับปรุงแก้ไขต่อนายจ้าง
4. ส่งเสริมกิจกรรมความปลอดภัย
5. กำหนดกฎระเบียบความปลอดภัย
6. จัดทำนโยบาย, แผนงาน โครงการความปลอดภัย
7. จัดโครงการ/ แผนงานอบรม
8. ติดตามความคืบหน้าเรื่องที่เสนอนายจ้าง
9. รายงานผลการปฏิบัติงานต่อนายจ้าง
10. ปฏิบัติงานที่อื่นที่นายจ้างมอบหมาย

เรื่องความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง”(31 มีนาคม 2546)
ประเภทกิจการ
1. เหมืองแร่ เหมือนหิน ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี
2. การผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อมบำรุงเก็บรักษาฯ
3. การก่อสร้าง
4. การขนส่ง
5. สถานีบริการ / จำหน่ายน้ำมัน / แก๊ส
6. อื่นๆ

สถานประกอบการที่เข้าข่ายทั้ง 5 ประเภทต้องแต่งตั้งให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย (จป.) 3 ระดับ ดังนี้
1. จป. บริหาร
2. จป. หัวหน้างาน
3. จป. พื้นฐาน / วิชาชีพ
หมายเหตุ : ต้องจัดให้มี จป.วิชาชีพ เมื่อมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป

หน้าที่นายจ้าง
1. อบรม/ แต่งตั้ง จป. ตามที่ กม. กำหนด ภายใน 180 วัน
2. แจ้ง จป. ต่ออธิบดี ภายใน 30 วัน นับแต่วันแต่งตั้ง
3. แจ้ง จป. ทดแทน จป. คนเดิม ภานใน 60 วัน
4. รายงานการปฏิบัติงานของ จป. ทุกๆ 3 เดือน
5. จัดให้มีการอบรมลูกจ้างใหม่ / เปลี่ยนงาน
6. แจ้งข้อมูลงานเสี่ยงภัยให้ลูกจ้างทราบ ก่อนการปฏิบัติงาน

หน้าที่ของ จป. บริหาร
1. กำกับดูแลให้ จป. พื้นฐาน จป. หัวหน้างาน จป. วิชาชีพ ปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบ
2. ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงาน เกี่ยวความปลอดภัย

หน้าที่ของ จป. หัวหน้างาน
1. กำกับดูแลให้ลูกจ้าง ปฏิบัติตามกฎระเบียบ คำสั่งและมาตรการความปลอดภัย
2. สอนวิธีการปฏิบัติงานให้แก่ลูกจ้าง
3. ตรวจสอบสภาพการทำงาน ก่อนการปฏิบัติงาน
4. ตรวจสอบหาสาเหตุการประสบอันตราย รายงานและเสนอแนะต่อนายจ้าง
5. ส่งเสริมและสนับสนุนกิจการความปลอดภัย
6. ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ จป. บริหารมอบหมาย

หน้าที่ของ จป. วิชาชีพ
1. กำกับดูแลให้ลูกจ้าง ปฏิบัติตามระเบียบคำสั่งและมาตรการความปลอดภัย
2. ตรวจสอบและเสนอแนะนายจ้าง
3. ตรวจสอบการปฏิบัติงานของสถานประกอบการให้เป็นไปตามแผน
4. ตรวจสอบหาสาเหตุการประสบอันตราย รายงานและเสนอแนะต่อนายจ้าง
5. แนะนำ ฝึกสอน อบรมลูกจ้าง
6. จัดทำแผนงาน โครงการ มาตรการด้านความปลอดภัยต่อนายจ้าง
7. รวบรวมวิเคราะห์ข้อมูล สถิติการประสบอันตรายของลูกจ้าง

หน้าที่ของ จป. พื้นฐาน
1. แนะนำให้ลูกจ้าง ปฏิบัติตามระเบียบ คำสั่งและมาตรการความปลอดภัย
2. สำรวจสภาพการทำงาน รายงาน เสนอแนะ แนวทางการแก้ไขต่อนายจ้าง
3. รายงานการประสบอันตราย รายงาน และ เสนอแนะต่อนายจ้าง
4. ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับ ความปลอดภัย
5. ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ จป. หัวหน้างาน จป. บริหารมอบหมาย

กฎหมายความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง 1

ความปลอดภัยในงานก่อสร้าง 1
มติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมอุบัติเหตุในงานก่อสร้างของรัฐ
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งถือปฏิบัติตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ นร.0250/7877 ลงวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2543 ประกอบด้วย
1. อนุมัติ หลักการให้หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ กำหนดให้มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับระบบจัดการความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้างใน โครงการของรัฐ
2. กำหนดให้ผู้รับเหมาก่อสร้างยื่นซองประกวดราคา จัดทำเอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาเกี่ยวกับระบบการจัดการความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง” โดยให้กำหนดเฉพาะประเภทของงานก่อสร้าง คือ
  • งานอาคารขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่อาคารรวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใดในหลังเดียวกัน เกิน 2,000 2 หรืออาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 15.00 ม. ขึ้นไป และมีพื้นที่อาคารรวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใดในหลังเดียวกันเกิน 1,000 2 แต่ไม่เกิน 2,000 2
  • งานสะพานที่มีความยาวช่วงเกิน 30.00 ม. หรืองานสะพานข้ามทางแยก หรือทางยกระดับ หรือสะพานกลับรถยนต์ หรือทางแยกต่างระดับ
  • งานขุด หรือ ซ่อมแซม หรือ รื้อถอนระบบสาธารณูปโภค ที่ลึกเกิน 3.00 ม.
  • งานอุโมงค์ หรือ ทางลอด
  • งานก่อสร้างที่มีงบประมาณค่าก่อสร้างเกิน 300 ล้านบาท
3. กำหนด ให้ผู้รับจ้าง หรือผู้รับเหมาก่อสร้าง จัดทำแผนปฏิบัติงานความปลอดภัยในการทำงานอย่างละเอียดและชัดเจน ให้สอดคล้องกับระบบการจัดการความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง แล้วยื่นต่อผู้ว่าจ้าง หรือเจ้าของโครงการฯ ก่อนการดำเนินการก่อสร้างภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มทำสัญญาว่าจ้าง
4. กำหนด ให้ผู้คุมงานของผู้ว่าจ้าง หรือของโครงการฯ เป็นผู้ควบคุม ดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติงานในหน่วยงานก่อสร้าง โดยให้ผู้รับจ้างปฏิบัติตามแผนปฏิบัติงานความปลอดภัยในการทำงานตามข้อ 3
5. กำหนดให้ผู้รับจ้าง หรือผู้รับเหมาก่อสร้าง ต้องปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติงานก่อสร้างตามข้อ 3 อย่างเคร่งครัด และสอดคล้องกับกฎหมาย และระเบียบที่กำหนดไว้
ระบบการจัดการความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง
1. กำหนดนโยบายความปลอดภัย และสุขภาพอนามัยในการทำงาน
2. การจัดองค์กรความปลอดภัยฯ ในงานก่อสร้าง และหน้าที่ความ รับผิดชอบ
3. กฎหมาย และข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
4. การฝึกอบรมด้านความปลอดภัยฯ
5. กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมอันตราย
6. การตรวจความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง
7. กำหนดกฎความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้าง
8. การควบคุม ดูแลความปลอดภัยฯ ของผู้รับเหมาช่วง
9. การตรวจสอบ และการติดตามผลความปลอดภัยฯ
10.การรายงานอุบัติเหตุ และสอบสวน วิเคราะห์อุบัติเหตุ
11.การรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยฯ
12.การปฐมพยาบาล
13.การวางแผนฉุกเฉิน
14.การจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้อง
15.อื่นๆ


กฏหมายในงานก่อสร้าง

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้าง

1.พรบ.ควบคุมอาคาร

                     กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างทั้งหมดในประเทศไทยจะมีกฏหมายที่ครอบคลุมที่สุดคือพ.ร.บ. ควบคุมอาคารโดยตอนนี้ พรบ.ควบคุมอาคารตอนนี้มีทั้งหมด 5 ฉบับ โดยเป็นฉบับที่แก้ไขจากปี พ.ศ.2522 โดยสนใจอ่านต่อได้ตามลิ้งข้างล่าง

อ่านต่อ คลิก พรบ.ควบคุมอาคารพ.ศ.2522

อ่านต่อ คลิก พรบ.ควบคุมอาคารพ.ศ.2535

อ่านต่อ คลิก พรบ.ควบคุมอาคารพ.ศ.2544

อ่านต่อ คลิก พรบ.ควบคุมอาคารพ.ศ.2552

อ่านต่อ คลิก พรบ.ควบคุมอาคารพ.ศ.2558 เป็นฉบับอัพเดตล่าสุด


กฎหมายในงานก่อสร้าง Civilclubthailand ได้ให้ความหมายไว้ว่า
              "กฎหมายควบคุมอาคาร เป็นกฎหมายมหาชน ที่มุ่งรักษาประโยชน์ ความสงบสุข และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของคนส่วนใหญ่ และสังคม โดยเน้นเรื่องที่เกี่ยวแก่การปลูกสร้างอาคาร "
              จากเอกสาร ฯ เผยแพร่ในคราวประชุมใหญ่ทางวิศวกรรม วันที่ 23 มิถุนายน 2545 โดยอนุกรรมการ เฉพาะกิจ พัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคม วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย 2545-2546
              1. ทั่วไปกฎหมายควบคุมอาคาร เป็นกฎหมายมหาชน ที่มุ่งรักษาประโยชน์ ความสงบสุข และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของคนส่วนใหญ่ และสังคม โดยเน้นเรื่องที่เกี่ยวแก่การปลูกสร้างอาคาร ข้อปฏิบัติของเจ้าของอาคาร การขออนุญาต การใช้งานอาคาร เจ้าพนักงาน อำนาจหน้าที่ คำสั่ง โทษ บทลงโทษ ตลอดจนรายละเอียคุณื่น ๆ กฎหมายอาคารปัจจุบัน ได้แก่พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และฉบับอื่น ๆ ที่ออกภายหลัง เพื่อเพิ่มเติม แก้ไข) แล้ว ยังมีกฎหมายอื่น ๆ ซึ่งออกโดยเจ้าพนักงาน หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ กำกับดูแล เรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวแก่การก่อสร้าง หรือออกโดยอาศัยอำนาจตามความใน พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร

อ่านต่อ คลิก กฎหมายควบคุมอาคาร


นายสถาพร โภคา  คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ได้เรียบเรียงกฎหมายที่เกี่ยวกับงานก่อสร้างไว้ดังนี้

อ่านต่อ คลิก กฎหมายที่เกี่ยวกับงานก่อสร้าง